ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก พ่อของผมเล่าเรื่องยุคมืดให้ผมฟัง เมื่อเวลาที่วัฒนธรรมกับภูมิปัญญาต่างถูกบดบัง When I was a boy, my father told me stories of the dark ages, a time when culture and learning were eclipsed by barbaric ritual and war.
หลายปีผ่านไป ผมได้มีความเชื่อที่ว่า ยุคมืดไม่เคยได้จบลงจริงๆ นั่นก็คือ ความหวาดกลัว ความเกลียดชัง และความโหดร้าย Over the years, I have come to believe that the dark ages never actually ended, that the fear... hatred, and brutality that once plagued our ancestors plagues us still.
เรื่องของผมเริ่มขึ้น ในยุคมืด เมื่อไรก็ตามที่มีการติดต่อกันระหว่างสองโลก ถือเป็นภัยอย่างมหันต์ และผิดกฏอย่างร้ายแรง Now let's go back to the dark times when any contact between worlds was extremely dangerous and totally forbidden.
ผ่านช่วงเวลาศาสนายุคมืดและสมัยปฏิรูปศาสนาในระหว่าง 1,600 ปี มนุษยชาติหลงลืมหนทางไปสู่ชีวิตนิรันดร์ และไม่มีใครนำกลับคืนมาได้เลย For a long time of 1,600 years, while passing through the Dark Ages and the Reformation Era, mankind lost the path to eternal life. Nobody could find the way.
ในปัจจุบัน ถือว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะเป็นแหล่งรวบรวมความทรงจำและภาพสะท้อนความยากลำบากที่ผู้คน ซึ่งอาศัยอยู่ในยุคมืดที่สุดของประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของประเทศที่เคยเผชิญ Fittingly, the space is now holds the memories and reflections of the hardships faced by those who lived through the darkest years of the country’s modern history.